2. เริ่มต้นใช้งาน Google Ads ง่ายๆ ใน 5 นาที
การเริ่มต้นใช้งาน Google Ads อาจดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ยากอย่างที่คิด! ลองนึกภาพว่าคุณกำลังจะเปิดร้านค้าออนไลน์ แต่แทนที่จะต้องออกแบบหน้าร้าน จัดวางสินค้า และติดป้ายโฆษณา คุณแค่ต้องกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์มออนไลน์เท่านั้นเอง มาดูกันว่าเราจะเริ่มต้นได้อย่างไรภายในเวลาเพียง 5 นาที
การสร้างบัญชี Google Ads (2 นาที)
1. เข้าสู่เว็บไซต์ Google Ads:
เปิดเบราว์เซอร์และพิมพ์ “ads.google.com” จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “เริ่มต้นใช้งาน” หรือ “Start now”
2. ใช้บัญชี Google ของคุณ:
ถ้าคุณมีบัญชี Gmail อยู่แล้ว ให้ล็อกอินด้วยบัญชีนั้น ถ้าไม่มี ให้คลิก “สร้างบัญชี” เพื่อสร้างบัญชีใหม่
3. กรอกข้อมูลธุรกิจ:
ใส่ชื่อธุรกิจ เว็บไซต์ (ถ้ามี) และเลือกเป้าหมายหลักของการโฆษณา เช่น “เพิ่มยอดขาย” หรือ “สร้างการรับรู้แบรนด์”
ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณมีร้านขายกาแฟสดชื่อ “คาเฟ่อารมณ์ดี” คุณจะกรอกชื่อร้าน ใส่ URL เว็บไซต์ (ถ้ามี) และเลือกเป้าหมาย “เพิ่มยอดขาย” เพราะคุณต้องการให้คนมาซื้อกาแฟที่ร้าน
การตั้งค่าการชำระเงิน (1 นาที)
1. เลือกวิธีการชำระเงิน:
Google จะให้คุณเลือกระหว่างบัตรเครดิต/เดบิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร
2. กรอกข้อมูลการชำระเงิน:
ใส่หมายเลขบัตร วันหมดอายุ และรหัส CVV (ตัวเลข 3 หลักด้านหลังบัตร)
3. ยืนยันการตั้งค่า:
อ่านและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
ตัวอย่าง: คุณเลือกใช้บัตรเครดิตส่วนตัวเพื่อความสะดวกในการจัดการค่าใช้จ่าย แต่ต้องแน่ใจว่าจะแยกค่าใช้จ่ายส่วนตัวและธุรกิจออกจากกันได้อย่างชัดเจน
การสร้างแคมเปญแรกของคุณ (2 นาที)
1. เลือกประเภทแคมเปญ:
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เลือก “Search campaign” เพื่อแสดงโฆษณาบนผลการค้นหาของ Google
2. ตั้งชื่อแคมเปญ:
ใช้ชื่อที่เข้าใจง่ายและสื่อถึงเป้าหมายของแคมเปญ
3. กำหนดพื้นที่เป้าหมาย:
เลือกพื้นที่ที่คุณต้องการให้โฆษณาแสดง เช่น ประเทศ จังหวัด หรือรัศมีรอบๆ ที่ตั้งธุรกิจของคุณ
4. เลือกคีย์เวิร์ด:
พิมพ์คำหรือวลีที่คุณคิดว่าลูกค้าจะใช้ค้นหาธุรกิจของคุณ Google จะแนะนำคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องให้ด้วย
5. กำหนดงบประมาณ:
ระบุจำนวนเงินที่คุณพร้อมจะใช้ต่อวัน เริ่มต้นที่ 300–500 บาทต่อวันก็ได้
6. เขียนโฆษณา:
สร้างข้อความโฆษณาสั้นๆ ที่บอกจุดเด่นของธุรกิจคุณ พร้อม Call-to-Action ที่ชัดเจน
ตัวอย่าง: สำหรับร้าน “คาเฟ่อารมณ์ดี” คุณอาจตั้งชื่อแคมเปญว่า “โปรโมทกาแฟสดในย่านสุขุมวิท” กำหนดพื้นที่เป้าหมายเป็นรัศมี 5 กิโลเมตรรอบร้าน เลือกคีย์เวิร์ดเช่น “ร้านกาแฟสุขุมวิท”, “กาแฟสดอร่อย”, “คาเฟ่บรรยากาศดี” ตั้งงบประมาณ 500 บาทต่อวัน และเขียนโฆษณาว่า “คาเฟ่อารมณ์ดี — กาแฟสดคั่วใหม่ทุกวัน บรรยากาศชิลล์ใจกลางสุขุมวิท ลด 10% สำหรับออเดอร์แรก!”
เคล็ดลับสำหรับมือใหม่:
1. เริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป:
ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากตั้งแต่แรก เริ่มจากน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มเมื่อคุณเห็นผลลัพธ์ที่ดี
2. ใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจง:
แทนที่จะใช้คำกว้างๆ เช่น “กาแฟ” ลองใช้คำที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น “กาแฟสดคั่วมือสุขุมวิท” เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่ตรงกลุ่มมากขึ้น
3. ทดสอบหลายๆ โฆษณา:
สร้างโฆษณา 2–3 แบบที่แตกต่างกันเล็กน้อย เพื่อดูว่าแบบไหนได้ผลดีที่สุด
4. ตรวจสอบผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ:
เข้าไปดูผลการดำเนินการของแคมเปญทุกวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อดูว่าอะไรที่ได้ผลดีและอะไรที่ควรปรับปรุง
5. ใช้ Extensions:
เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมในโฆษณาของคุณ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ หรือลิงก์ไปยังหน้าเฉพาะบนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่โฆษณาและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้ามากขึ้น
ข้อควรระวัง:
1. อย่าลืมตั้งค่าการจำกัดงบประมาณ:
เพื่อป้องกันไม่ให้คุณใช้จ่ายเกินงบที่ตั้งไว้โดยไม่รู้ตัว
2. ระวังการใช้คีย์เวิร์ดที่กว้างเกินไป:
คีย์เวิร์ดที่กว้างเกินไปอาจทำให้คุณเสียเงินไปกับคลิกที่ไม่เกี่ยวข้อง
3. อย่าละเลยการใช้ Negative Keywords:
ใส่คำที่คุณไม่ต้องการให้โฆษณาแสดง เช่น ถ้าคุณขายกาแฟสด คุณอาจใส่ “กาแฟสำเร็จรูป” เป็น Negative Keyword
4. ตรวจสอบการตั้งค่าอย่างละเอียด:
ก่อนเริ่มแคมเปญ ตรวจสอบทุกการตั้งค่าอีกครั้งเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
5. อย่าคาดหวังผลลัพธ์ทันที:
การโฆษณาต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับแต่ง ให้เวลากับแคมเปญของคุณสักพัก (อย่างน้อย 2 สัปดาห์) ก่อนที่จะตัดสินว่าได้ผลหรือไม่
สรุป:
การเริ่มต้นใช้งาน Google Ads ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ด้วยเวลาเพียง 5 นาที คุณก็สามารถสร้างแคมเปญแรกของคุณได้แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ลองผิดลองถูก และอย่ากลัวที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ เหมือนกับการชงกาแฟ คุณอาจต้องปรับสูตรหลายครั้งกว่าจะได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ แต่เมื่อคุณหาสูตรที่ใช่ได้แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่ากับความพยายามแน่นอน!